เมื่อสตาร์ทรถตอนเช้า ผู้ขับขี่รถยนต์รุ่นใหม่อาจเคยเห็น ไฟสัญลักษณ์สีฟ้า ปรากฏขึ้นบนหน้าปัด ซึ่งมองดูเผิน ๆ คล้ายกับรูป “เรือใบลอยน้ำ” หลายคนอาจสงสัยว่าสัญลักษณ์นี้คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรต่อรถยนต์ของคุณ
ความเข้าใจผิด: มันไม่ใช่เรือใบ แต่มันคือเทอร์โมมิเตอร์!
แท้จริงแล้ว สัญลักษณ์สีฟ้าที่เห็น ไม่ใช่รูปเรือใบ แต่คือ ไฟเทอร์โมมิเตอร์สีฟ้า (Coolant Temperature Indicator) ซึ่งทำหน้าที่แทนเข็มวัดความร้อนแบบเดิมที่ผู้ผลิตมักจะตัดออกไปในรถยนต์สมัยใหม่
ความหมายของสัญลักษณ์เรือใบสีฟ้า ในรถยนต์:
ไฟสีฟ้าที่แสดงขึ้นมาทันทีหลังสตาร์ทรถบ่งบอกถึงสถานะสำคัญของเครื่องยนต์ นั่นคือ “เครื่องยนต์ยังเย็นจัด” หรืออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นยังต่ำกว่าจุดทำงานปกติ (Operating Temperature)
💡 เมื่อไฟสีฟ้าโชว์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
การที่ไฟสีฟ้าติดไม่ได้แปลว่ารถเสีย แต่เป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ในช่วงแรก เพื่อถนอมเครื่องยนต์:
- ขับช้า ๆ: ในช่วงที่ไฟสีฟ้ายังติดอยู่ ห้ามเร่งเครื่องยนต์สูง หรือขับด้วยความเร็วสูงทันที ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำและใช้รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงนัก
- รอการวอร์มอัพ: เปิดโอกาสให้ระบบน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องได้หมุนเวียนและปรับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้เข้าสู่สภาวะพร้อมทำงาน
- ไฟดับเมื่อพร้อม: เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์เข้าสู่จุดทำงานปกติแล้ว ไฟเทอร์โมมิเตอร์สีฟ้า จะดับลง นั่นหมายความว่าคุณสามารถขับรถและใช้รอบเครื่องยนต์ได้ตามปกติ
⚠️ ข้อควรระวัง: ถ้าไฟสีฟ้าค้างไม่ยอมดับ
โดยทั่วไป ไฟเตือนนี้จะดับลงเองภายในไม่กี่นาที แต่หากคุณขับรถไปนานแล้ว แต่ ไฟสีฟ้ายังค้างอยู่ ไม่ยอมดับ นั่นเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่ควรนำรถเข้าตรวจสอบทันที เช่น อาจเกิดปัญหาวาล์วน้ำค้างเปิด (Thermostat stuck open) ทำให้เครื่องยนต์เย็นเกินไปตลอดเวลา หรือเซนเซอร์วัดอุณหภูมิมีปัญหา
ดังนั้น ครั้งหน้าไม่ต้องตกใจกับ ไฟเตือนสีฟ้า สตาร์ทรถ แค่ใจเย็นและขับช้า ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถคู่ใจคุณครับ




Be First to Comment